ศิลปะบาโรก ประติมากรรม จากอดีตสู่ปัจจุบันที่ควรค่าแก่การศึกษา
“บาโรก” เป็นช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ศิลปะที่เริ่มต้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 17 และพัฒนาต่อไปจนถึงศตวรรษที่ 18 มันเริ่มแพร่ไปทั่วอิตาลี และยังแพร่ไปทั่วยังประเทศส่วนใหญ่ของยุโรปและอเมริกา ศิลปะบาโรกอยู่ในทุกทุกรูปแบบของแนวศิลปะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทัศนศิลป์เช่นจิตรกรรม ประติมากรรมและสถาปัตยกรรม อย่างไรก็ตามยังมีศิลปะรูปแบบอื่นๆ เช่นโรงละคร ดนตรีและเต้นรำที่สืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ ความโดดเด่นในแบบบาโรกคือความสร้างสรรค์ที่มีชีวิตชีวา ผสมกับความสมจริงของผลงานที่น่าทึ่ง มีการใช้รูปทรงและสีเพื่อแสดงถึงการแสดงออกที่แตกต่างกัน การใช้ลูกเล่นของแสงก็ถือเป็นเทคนิคที่สำคัญในศิลปะบาโรก พวกเขาใช้หลักการนี้ในการช่วยให้ผู้ชมได้เข้าถึงอารมณ์ของผลงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
จุดกำเนิดของคำว่าบาโรก
คำว่า “บาโรก” จริงๆแล้วมีต้นกำเนิดมาจากภาษาอิตาเลี่ยนที่เรียกว่า “บารอคโค” เป็นคำนักปรัชญาในช่วงยุคกลางใช้กันประจำ มันได้ถูกนำมาใช้แสดงถึงความคิดที่ไม่ปกติหรือแหวกแนวในยุคนั้น ในอีกความเชื่อหนึ่งว่ามันมาจากภาโปรตุเกส “บารรอคโค” ใช้เพื่ออธิบายมุกที่มีรูปร่างผิดปกติหรือไม่สมบูรณ์ และยังนำมาใช้จนถึงทุกวันนี้สำหรับใช้เรียกมุกบาร็อค สำหรับในด้านศิลปะแล้วมันใช้ในการวิจารณ์ศิลปะ ใช้เพื่ออธิบายสิ่งต่าง ๆ ผิดปกติไปจากหลักการหรือมีแนวคิดที่ต่างจากกลุ่มศิลปินส่วนมาก
มุมมองแบบอคติของศิลปะสมัยศตวรรษที่ 17 นี้เกิดขึ้นโดยการนำของนักวิจารณ์ชื่อ Johann Winckelmann จนกระทั่งปลายศตวรรษที่ 19 คำนี้มีความหมายเพิ่มมากขึ้นและไม่ใช่คำที่ดูดีเสียเลย พวกมันถูกนำไปใช้พูดถึงความแปลกประหลาด ความเกินจริงและการตกแต่งที่เกินความสวยงาม ทุกวันนี้ก็ยังมีการนำคำนี้มาใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อใช้เรียกสิ่งที่หรูหราเกินไปและซับซ้อนเกินไป
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับยุคบาโรก
เมื่อมีการอ้างอิงช่วงเวลาระหว่างเรอเนซ็องส์และบาโรก เรามักจะเรียกมันว่าแมนเนอริสม์ เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายของบาโรกเราเรียกมันว่ายุคโรโกโก รูปปั้นส่วนใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคบาโรกมักทำขึ้นจาก ทองแดง หินอ่อน และครั้งก็มีการนำวัสดุไปชุบทองคำเพิ่มความสวยงาม ในบรรดาช่างแกะสลักที่มีชื่อเสียงและมีผลงานชิ้นเอกที่มีการพูดถึงสุดก็คือ Gian Lorenzo Bernini จากผลงาน Aeneas, Anchises, Ascanius เป็นฉากหนึ่งจากมหากาพย์อีเนียส แสดงถึงรูปปั้นวีรบุรุษไอเนสที่กำลังแบกครอบครัวของเขาออกจากเมืองทรอย ในขณะที่ทั้งเมืองกำลังลุกเป็นไฟ ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ Galleria Borghese ในกรุงโรม